11กล้วยน้ำว้า พันธุ์สุโขทัย 1
ประวัติ
กล้วยน้ำว้า พันธุ์สุโขทัย 1 (Kluai Namwa Variety Sukhothai 1) หรือกล้วยน้ำว้าสายพันธุ์ สท. 55-4 โดยสถาบันวิจัยพืชสวน ศูนย์วิจัยพืชสวนสุโขทัยได้คัดเลือกสายต้นหรือพันธุ์กล้วยน้ำว้า จากแปลงรวบรวมและอนุรักษ์พันธุกรรมกล้วย ซึ่งรวบรวมกล้วยน้ำว้าไว้มากกว่า 30 ตัวอย่าง และต้นกล้วยน้ำว้าที่กลายพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ จำนวน 200 ตัวอย่าง ระหว่างปี 2547-2554 โดยใช้เกณฑ์การคัดเลือกกล้วยน้ำว้า คือ ให้ผลผลิตสูงมีจำนวนหวีต่อเครือไม่ต่ำกว่า 7 หวี เนื้อแน่น สีเนื้อมีสีขาวนวลถึงเหลือง รสชาติหวาน คุณภาพการบริโภคดี ผู้บริโภคยอมรับสูง สามารถคัดเลือกไว้ 7 สายต้นหรือพันธุ์ นำไปปลูกเปรียบเทียบสายต้น 3 ปี (2555–2557) คัดเลือกสายต้นที่ดีเด่นไว้ 2 สายต้น และปี 2558-2560 นำไปปลูกทดสอบ 3 สถานที่ คือ ศูนย์วิจัยพืชสวนสุโขทัย ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเลย และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรีที่มีสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกัน พบว่า กล้วยน้ำว้าสายต้น สท. 55-4 มีผลผลิตเฉลี่ยเป็นน้ำหนักเครือ และจำนวนหวีต่อเครือสูงสุดทั้ง 3 สถานที่ผลิต คือ ให้น้ำหนักเครือเฉลี่ย 16.1 กิโลกรัม มี 9.8 หวีต่อเครือ โดยผลผลิตในหน่อรุ่นที่ 1 ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนสุโขทัย ให้น้ำหนักเครือเฉลี่ยสูงสุด 24.5 กิโลกรัม และมีคุณค่าทางโภชนาการ
ลักษณะประจำพันธุ์
ลำต้นเทียมสูง 4.90 เมตร เส้นรอบวง 69.6 เซนติเมตร ลำต้นเทียมมีสีเขียวอมเหลือง (YG 152A) จำนวนหน่อ 11 หน่อตำแหน่งของหน่อข้าง ขนานกับต้นแม่ ใบ ปื้นบนโคนก้านใบมีขนาดปานกลาง มีสีน้ำตาล (B 200A) ร่องก้านใบมีลักษณะเปิดโค้งเข้าหากัน ก้านใบมีสีน้ำตาล (B 200B) ก้านใบมีความยาว 78 เซนติเมตร แผ่นใบมีขนาดยาว 238 เซนติเมตร กว้าง 60 เซนติเมตร สีผิวใบด้านบนสีเขียว (G 137A) ด้านใต้ใบสีเขียว (G 137B)ปลายใบรูปร่างตรงและมน ก้านช่อดอกมีขนาดยาว 7.8 เซนติเมตร กว้าง 6.9 เซนติเมตร ปลีเส้นรอบวงขนาด 37.3 เซนติเมตร กว้าง 12.3 เซนติเมตร ยาว (ของปลีกล้วยในระยะเก็บเกี่ยว) 32 เซนติเมตร ปลายใบประดับรูปร่างแหลม สีผิวด้านในของใบประดับแดง (R 46A) พฤติกรรมของดอกเพศผู้ติดทน สีพื้นของกลีบรวมเชิงประกอบสีแดง (R 48A) สีของพูของกลีบรวมเชิงประกอบสีเหลืองอมส้ม (YO 14A) สีของกลีบรวมอิสระสีครีม (YW 158C) รูปร่างตรงส่วนปลายของกลีบรวมอิสระมีลักษณะสามเหลี่ยม
การยื่นของอับเรณูตรงระดับฐานพูบนกลีบรวมเชิงประกอบต่ำกว่าฐานพู ก้านชูอับเรณูสีเหลือง (Y 11C) อับเรณูสีแดงอมม่วง (RP 65A) สีพื้นของก้านเกสรเพศเมียสีครีม (YW 158B) รูปร่างของก้านเกสรเพศเมียมีลักษณะโค้ง เครือกล้วยรูปร่างบันไดเวียน จำนวนผล 18 ผลต่อหวี ผลมีขนาดยาว 14.2 เซนติเมตร กว้าง 3.8 เซนติเมตร รูปหน้าตัดผลตามขวางค่อนข้างกลม รูปร่างปลายผลคอขวด ก้านผลมีขนาดยาว 3.1 เซนติเมตร กว้าง 1.3 เซนติเมตร สีของเปลือกผลดิบสีเขียวอมเหลือง (YG 144A) สีของเปลือกผลสุกสีเหลือง (Y 8C) ความหนาของเปลือก 0.1 เซนติเมตร สีของเนื้อผลดิบสีครีมอ่อน (YW 158D) สีของเนื้อผลสุกสีครีมอ่อน (YW 158C) ลักษณะเนื้อนิ่ม ผลผลิตน้ำหนักเครือเฉลี่ย 16.1 กิโลกรัม จำนวนหวี 9.8 หวีต่อเครือ Total Soluble Solids 22-24 องศาบริกซ์
โดยคุณสมบัติทางเคมีประกอบด้วยพลังงาน (energy) 361 kcal โปรตีน (protein) ร้อยละ 2.38 โดยน้ำหนักแห้ง ความชื้น (moisture) ร้อยละ 6.93 โดยน้ำหนักแห้ง เถ้า (ash) ร้อยละ 2.33 โดยน้ำหนักแห้ง ไขมัน (fat) ร้อยละ 0.32 โดยน้ำหนักแห้ง เส้นใย (crude fiber) ร้อยละ 1 โดยน้ำหนักแห้ง คาร์โบไฮเดรต (carbohydrate) ร้อยละ 87 โดยน้ำหนักแห้ง วิตามินบี 1 (vitamin B1) 0.007 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม วิตามินบี 2 (vitamin B2) 0.011 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม วิตามินบี 3 (vitamin B3) 0.0061 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม วิตามินซี (vitamin C) 0.24 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม แคลเซียม (calcium) 24.7 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม แมกนีเซียม (magnesium) 37.5 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ฟอสฟอรัส (phosphorus) 35.1 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม โพแทสเซียม (potassium) 309 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม
ลักษณะเด่น
1. ให้ผลผลิตสูง
1.1 น้ำหนักเครือเฉลี่ย 16.1 กิโลกรัม สูงกว่ากล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง (13.7 กิโลกรัม) ร้อยละ 17
1.2 จำนวนหวีเฉลี่ย 9.8 หวีต่อเครือ สูงกว่ากล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง (8.9 หวี) ร้อยละ 10
2. คุณค่าทางโภชนาการ ต่อกล้วยน้ำว้า 100 กรัม
2.1 วิตามินบี 3 0.006 มิลลิกรัม สูงกว่ากล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง (0.003 มิลลิกรัม) ร้อยละ 97
2.2 โพแทสเซียม 309 มิลลิกรัม สูงกว่ากล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง (279 มิลลิกรัม) ร้อยละ 11
3. ลักษณะผลค่อนข้างป้อมกลม เนื้อมีสีครีมอ่อน เนื้อละเอียดเหนียว รสหวานไม่ปนเปรี้ยว
พื้นที่แนะนำ
สามารถปลูกได้ดีทั่วไป ในพื้นที่ที่มีการระบายน้ำได้ดี
คุณค่าและการใช้ประโยชน์
เกษตรกรมีทางเลือกในการใช้พันธุ์กล้วยน้ำว้าที่มีผลผลิตสูง และใช้เป็นอาหารสุขภาพที่มีคุณค่า
ทางโภชนาการ ที่ให้วิตามินบี3 และโพแทสเซียมสูง
วันที่รับรอง : 15 สิงหาคม 2562 ประเภทพันธุ์แนะนำ
หน่วยงานที่รับผิดชอบ : ศูนย์วิจัยพืชสวนสุโขทัย สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร
* * * * *
ข้อมูลจาก : เอกสารเผยแพร่ พันธุ์รับรอง พันธุ์แนะนำ ปี 2561-2565
โดย : กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Was this helpful?
1 / 0