พันธุ์ถั่วเขียว ชัยนาท 3
ประวัติ
ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3 หรือ ถั่วเขียวสายพันธุ์ CNMB06-01-40-4 เป็นสายพันธุ์ที่ได้จากการฉายรังสี โดยนำ ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 36 มาฉายรังสีแกมมาในปริมาณ 400 เกรย์ ในปี 2548ทำการปลูกคัดเลือกชั่วที่ 1-4 (M1-M4) ปี 2548-2550 คัดเลือกในชั่วที่ 2 และ 3 (M2 และ M3) ได้ 188 และ 247 ต้นตามลำดับ ชั่วที่ 4 (M4) ปลูกแบบต้นต่อแถว สร้างเป็นสายพันธุ์กลายได้ทั้งหมด 121 สายพันธุ์ คัดต้นที่มีลักษณะทางการเกษตรดี เก็บเกี่ยวต้นแบบแยกต้น ได้ 32 สายพันธุ์ เพื่อนำเข้าประเมินพันธุ์ ตามขั้นตอนดังนี้ การเปรียบเทียบ เบื้องต้น การเปรียบเทียบมาตรฐาน การเปรียบเทียบในท้องถิ่น และการเปรียบเทียบในไร่เกษตรกร โดยใช้พันธุ์มาตรฐานชัยนาท 36 และพันธุ์ชัยนาท 72 เป็นพันธุ์เปรียบเทียบ ศึกษาข้อมูลจำเพาะของพันธุ์ และคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งประเมินการยอมรับของเกษตรกร ระหว่างปี 2548–2561
ลักษณะประจำพันธุ์
การเจริญเติบโตแบบต้นตั้งตรง โคนต้นอ่อนใต้ใบเลี้ยงมีสีเขียว ใบย่อยใบกลางเป็นรูปคล้ายสามเหลี่ยม มีความยาว 9.7 เชนติเมตร และกว้าง 7.5 เซนติเมตร ก้านใบมีสีเขียว ยาว 9.5 เซนติเมตร ใบมีสีเขียวอ่อน มีขนน้อย วงกลีบเลี้ยงมีสีเขียว กลีบดอกมีสีเหลืองอ่อน ก้านชูช่อดอกมีความยาว 6.8 เซนติเมตร ฝักอ่อนมีสีเขียวอ่อน ฝักแก่มีสีดำ ฝักแก่มีลักษณะกลม ความหนาแน่นของขนที่ฝักแก่น้อย การแตกของฝักเมื่อแก่ไม่แตก ขั้วเมล็ดมีลักษณะไม่เว้าและตำแหน่งของขั้วเมล็ดอยู่กึ่งกลาง เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก และมีสีเขียว อายุถึงดอกแรกบาน 35 วัน อายุถึงเก็บเกี่ยว 65 วัน มีจำนวนฝักต่อต้น 14.3 ฝัก จำนวนเมล็ดต่อฝัก 11.1 เมล็ด ฝักมีความยาว 9.1 เชนติเมตร ต้นมีความสูง 63 เซนติเมตร เมล็ดมีน้ำหนัก 1,000 เมล็ด 72.2 กรัม ผลผลิตเฉลี่ยจากทุกแปลง 232 กิโลกรัมต่อไร่ เมล็ดมีคุณสมบัติทางเคมีประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 58.37 เปอร์เซ็นต์ โปรตีน 24.05 เปอร์เซ็นต์ ไขมัน 1.03 เปอร์เซ็นต์ เส้นใย 4.50 เปอร์เซ็นต์ เถ้า 4.12 เปอร์เซ็นต์
ลักษณะเด่น
1. ให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 232 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ชัยนาท 36 และชัยนาท 72 ร้อยละ 13 และ 6 ตามลำดับ
2. ขนาดเมล็ดใหญ่ โดยให้น้ำหนัก 1,000 เมล็ด เฉลี่ย 72.2 กรัม
3. เหมาะสำหรับการเพาะถั่วงอก โดยให้น้ำหนักสดถั่วงอกสูง และอัตราการเพาะถั่วงอก 1 : 5.7 คุณภาพของถั่วงอกรสชาติหวาน กรอบ และไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว
4. เหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นวุ้นเส้น ลักษณะวุ้นเส้นมีสีขาวใส และเหนียวนุ่ม
5. การสุกแก่ของฝักสม่ำเสมอใกล้เคียงกัน
พื้นที่แนะนำ
เหมาะสำหรับปลูกในสภาพการผลิตพืชไร่ทั่วไป สามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะในเขตภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน
วันที่รับรอง : 1 มีนาคม 2562 ประเภทพันธุ์แนะนำ
หน่วยงานที่รับผิดชอบ : ศูนย์วิจัยพืชไร่ชัยนาท สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน กรมวิชาการเกษตร
* * * * *
ข้อมูลจาก : เอกสารเผยแพร่ พันธุ์รับรอง พันธุ์แนะนำ ปี 2561-2565
โดย : กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Was this helpful?
1 / 0