พริกขี้หนูเลย พันธุ์ศรีสะเกษ 4

พริกขี้หนูเลยพันธุ์ศรีสะเกษ 4 Bird Chili Loei Si Sa Kat 4 หรือ พริกขี้หนูเลยสายพันธุ์ ศก. 59-1-2 เริ่มดำเนินการทดลองระหว่างปี 2549–2554

พันธุ์พริกขี้หนูเลย ศรีสะเกษ 4

ประวัติ
พริกขี้หนูเลยพันธุ์ศรีสะเกษ 4 Bird Chili Loei Si Sa Kat 4 หรือ พริกขี้หนูเลยสายพันธุ์ ศก. 59-1-2 เริ่มดำเนินการทดลองระหว่างปี 2549–2554 โดยการรวบรวมและคัดเลือกพันธุ์พริกขี้หนูที่มีลักษณะเจริญเติบโตดี ความยาวผลอยู่ระหว่าง 6.0–8.2 เซนติเมตร ก้านผลสีเขียวยาว 3.5–4.6 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางผล 0.8-1.0 เซนติเมตร จากแหล่งปลูกต่างๆ ในเขตจังหวัดเลย จำนวน 200 สายพันธุ์ ปลูกคัดเลือกพันธุ์แบบสายพันธุ์บริสุทธิ์ จำนวน 2 รุ่น คัดพันธุ์ที่มีลักษณะดีเด่น หลังจากนั้นเปรียบเทียบและทดสอบพันธุ์โดยใช้สายพันธุ์พริกขี้หนูเลยที่ได้จากการคัดพันธุ์ครั้งที่ 2 จำนวน 12 สายพันธุ์ (รวมสายพันธุ์ของเกษตรกร) ดำเนินการที่ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรหนองคาย ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนมและศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรชัยภูมิ โดยใช้ขนาดแปลง 4.0×5.0 เมตร ระยะปลูก 0.5×1.0 เมตร การเตรียมต้นกล้าพริกศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษจัดเตรียมให้ทุกสถานที่ที่ทำการทดลอง ทำการเก็บข้อมูลการเจริญเติบโต และลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เพื่อคัดสายพันธุ์ที่ปรับตัวได้ดีในแหล่งปลูกต่าง ๆ คัดเลือกได้สายพันธุ์ที่มีลักษณะดีเด่น 3 สายพันธุ์ นำไปทดสอบในไร่เกษตรกรในแหล่งปลูกต่าง ๆ ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ ประกอบด้วย สายพันธุ์ ศก 40-2-2 ศก 59-1-1 ศก 59-1-2 และพันธุ์ของเกษตรกร จังหวัดหนองคาย ประกอบด้วย สายพันธุ์ ศก 13-1-1 ศก 29-1-1 ศก 40-1-1 และพันธุ์ของเกษตรกร จังหวัดนครพนม ประกอบด้วย สายพันธุ์ ศก 20-1-1 ศก 16-1-1 ศก 59-1-2 และพันธุ์ของเกษตรกร และจังหวัดชัยภูมิ ประกอบด้วย สายพันธุ์ ศก 13-1-1 ศก 16-1-1 ศก 59-1-2 และพันธุ์ของเกษตรกร ผลการทดลองพบว่า พันธุ์ ศก 59-1-2 เป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง เป็นที่ยอมรับของเกษตรกรผู้ปลูกมากที่สุด และสามารถปรับตัวได้ดีในแหล่งปลูก

ลักษณะประจำพันธุ์
การเจริญเติบโตแบบพุ่ม ความสูงต้นเฉลี่ย 118.81 เซนติเมตร ความกว้างทรงพุ่มเฉลี่ย 92.78 เซนติเมตร ลำต้นมีสีเขียวมีจำนวนกิ่งแขนงเฉลี่ย 11.03 กิ่งต่อต้น ใบมีรูปร่างคล้ายสามเหลี่ยม ลักษณะดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศสีขาวแกมเขียวมีจำนวนกลีบดอก 5-6 กลีบ อายุดอกบาน 50 เปอร์เซ็นต์ หลังย้ายปลูก 45-85 วัน เก็บเกี่ยวครั้งแรกเมื่ออายุ 92 วันหลังการย้ายปลูกผลมีรูปร่างเรียวยาว ส่วนบนของผลมีรูปร่างมน มีปลายเรียวแหลม ผิวผลย่นมาก และมีกลิ่นหอม ผลมีขนาด 0.79×8.37 เซนติเมตร น้ำหนักผลสดเฉลี่ย 2.76 กรัม จำนวนเมล็ดต่อผลเฉลี่ย 31.95 เมล็ด ผลอ่อนมีสีเขียวเหลือง (Yellow Green Group 144B) ผลแก่มีสีแดงส้ม (Orange Red Group 32A) และผลสุกมีสีแดง (Red Group 45B) มีค่าความเผ็ด (capsaicinoids) 73,879 SHU จำนวนผลต่อต้นเฉลี่ย 377.25 ผล ผลผลิตสดเฉลี่ย 1,596.29 กิโลกรัมต่อไร่

ลักษณะเด่น
1. ผลผลิตสดเฉลี่ยสูงถึง 1,596 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์เกษตรกร 10.60 เปอร์เซ็นต์
2. มีค่าความเผ็ดเท่ากับ 73,879 สโควิลล์ (SHU) ค่าความเผ็ดต่ำกว่าพันธุ์เกษตรกร (220,169 สโควิลล์ (SHU) จัดเป็นพริกที่มีความเผ็ดต่ำ เหมาะกับการเป็นพริกบริโภคสด

พื้นที่แนะนำ
ปลูกได้ดีในจังหวัดศรีสะเกษ ชัยภูมิและนครพนม และพื้นที่อื่นๆ ที่มีลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศใกล้เคียงกัน

ข้อควรระวังหรือข้อจำกัด
ไม่เหมาะที่จะปลูกในพื้นที่น้ำท่วมขัง หรือดินอุดมสมบูรณ์ต่ำ ระบายน้ำเลว

คุณค่าและการใช้ประโยชน์
พริกผสมเปิดพันธุ์ใหม่ ผลผลิตสูง ที่มีความเผ็ดต่ำกว่าพริกในกลุ่มเดียวกัน เหมาะกับการเป็นพริกบริโภคสด เป็นทางเลือกเพื่อเกษตรกรและผู้บริโภคพริกสดในปัจจุบัน เหมาะสำหรับแนะนำ ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกทั้งในครัวเรือนและเป็นการค้า อีกทั้งเกษตรกรสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ใช้ได้เอง ช่วยลดต้นทุนด้านเมล็ดพันธุ์ของเกษตรกร เป็นการเพิ่มรายได้ที่ยั่งยืนให้เกษตรกรต่อไป

วันที่รับรอง : 1 มีนาคมคม 2562 ประเภทพันธุ์แนะนำ
หน่วยงานที่รับผิดชอบ : ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร

* * * * *

ข้อมูลจาก : เอกสารเผยแพร่ พันธุ์รับรอง พันธุ์แนะนำ ปี 2561-2565
โดย : กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

Was this helpful?

1 / 0

error: Content is protected !!